รวมสูตรบราวนี่ยอดฮิต เนื้อชุ่มฉ่ำ อร่อยเข้มข้นทุกคำ

สูตรบราวนี่เป็นขนมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยรสชาติที่เข้มข้นของช็อกโกแลต เนื้อสัมผัสที่หนึบหนับ และความชุ่มฉ่ำในทุกคำ ทำให้บราวนี่กลายเป็นขนมยอดนิยมทั้งสำหรับทำขายและทำรับประทานเองที่บ้าน วันนี้เรามี Brownie สูตรอร่อย ทำตามง่ายมาฝากกัน

10 สูตรบราวนี่ยอดฮิต อร่อยติดใจ

สูตรบราวนี่แต่ละแบบไม่ได้ทำยากอย่างที่คิด เพียงเข้าใจหลักการพื้นฐาน เลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดี และควบคุมอุณหภูมิในการอบให้เหมาะสม เราก็จะได้บราวนี่ที่มีเนื้อสัมผัสดี หอมกลิ่นช็อกโกแลต และรสชาติกลมกล่อม ซึ่ง Brownie วิธีทำมีอะไรบ้างไปดูกัน

1. บราวนี่เนื้อหนึบสูตรคลาสสิก

บราวนี่สูตรคลาสสิกเป็นสูตรพื้นฐานที่ควรเริ่มฝึกทำ ใช้ส่วนผสมหลักเพียงไม่กี่อย่าง ได้แก่ ช็อกโกแลตชิป เนยสด ไข่ไก่ น้ำตาลทราย และแป้งเค้ก เริ่มจากการละลายช็อกโกแลตกับเนยในอ่างน้ำร้อน คนให้เข้ากันจนละลายหมด พักไว้ให้อุ่น จากนั้นตีไข่กับน้ำตาลจนขึ้นฟู ค่อยๆ เทส่วนผสมช็อกโกแลตลงไป ตามด้วยแป้งที่ร่อนแล้ว คนให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์ที่รองด้วยกระดาษไข นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 25-30 นาที เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การไม่อบนานเกินไป และการพักให้เย็นสนิทก่อนตัด

2. บราวนี่หน้าแตก

บราวนี่หน้าแตกเป็นสิ่งที่หลายคนชื่นชอบ ด้วยผิวด้านบนที่แตกลายงดงาม และซ่อนเนื้อในที่ชุ่มฉ่ำ เริ่มจากการละลายช็อกโกแลตดำกับเนยสดในอ่างน้ำร้อน ระหว่างรอให้ตีไข่กับน้ำตาลทรายจนขึ้นฟูเป็นสีอ่อน ใส่น้ำตาลทรายแดงเพิ่มเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่หนึบพิเศษ เทส่วนผสมช็อกโกแลตลงในไข่ ตามด้วยแป้งเค้กที่ร่อนแล้ว และผงโกโก้ คนให้เข้ากัน เทลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส นาน 35 นาที เคล็ดลับการทำให้หน้าแตกสวยคือการตีไข่ให้ขึ้นฟูดี และการอบที่อุณหภูมิต่ำกว่าปกติเล็กน้อย

3. บราวนี่ฟัดจ์

บราวนี่ฟัดจ์โดดเด่นด้วยเนื้อสัมผัสที่เข้มข้น หนึบหนับ และละลายในปาก ส่วนผสมพิเศษที่เพิ่มเข้ามาคือกลูโคสไซรัปหรือน้ำเชื่อม เริ่มจากการละลายช็อกโกแลตคุณภาพดีกับเนยสด เติมกลูโคสไซรัป ตีไข่กับน้ำตาลจนขึ้นฟู ผสมกับส่วนผสมช็อกโกแลต ใส่แป้งเค้กที่ร่อนแล้วและโกโก้ผง คนให้เข้ากัน เทลงพิมพ์ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที สังเกตว่าเมื่อเสียบไม้จิ้มฟันจะมีเศษเนื้อบราวนี่ติดขึ้นมาเล็กน้อย นั่นคือความสุกที่พอดี

4. บราวนี่คลีน

บราวนี่คลีนเป็นทางเลือกสำหรับผู้รักสุขภาพ ใช้แป้งอัลมอนด์แทนแป้งเค้ก หญ้าหวานแทนน้ำตาล และน้ำมันมะพร้าวแทนเนย เริ่มจากการละลายช็อกโกแลตชนิดไม่มีน้ำตาลกับน้ำมันมะพร้าว ตีไข่กับหญ้าหวาน ผสมกับส่วนผสมช็อกโกแลต ใส่แป้งอัลมอนด์และผงโกโก้ เพิ่มความหวานด้วยกล้วยบด คนให้เข้ากัน เทลงพิมพ์ อบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส นาน 25 นาที ได้บราวนี่ที่หวานพอดี มีประโยชน์ และแคลอรีต่ำกว่าสูตรทั่วไป

5. บราวนี่โมจิ

บราวนี่โมจิเป็นการผสมผสานความอร่อยแบบตะวันตกกับเอเชีย ใช้แป้งข้าวเหนียวผสมกับแป้งเค้ก ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่มเป็นพิเศษ เริ่มจากการละลายช็อกโกแลตกับเนย ตีไข่กับน้ำตาล ผสมกับส่วนผสมช็อกโกแลต ใส่แป้งทั้งสองชนิดที่ร่อนรวมกัน คนให้เข้ากัน เทลงพิมพ์ อบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที ความพิเศษของสูตรนี้คือเนื้อสัมผัสที่เหนียวหนึบ ยืดหยุ่น และนุ่มละมุน

6. บราวนี่ครีมชีส

บราวนี่ครีมชีสเป็นการรวมความเข้มของช็อกโกแลตกับความครีมมี่ของชีส เริ่มจากการทำเนื้อบราวนี่พื้นฐาน แยกทำส่วนครีมชีสโดยตีครีมชีสกับไข่และน้ำตาลจนเนียน เทส่วนผสมบราวนี่ลงพิมพ์ ตามด้วยส่วนผสมครีมชีส ใช้ไม้จิ้มฟันวนให้เกิดลายหินอ่อน นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 165 องศาเซลเซียส นาน 35 นาที เคล็ดลับคือการใช้ครีมชีสที่อุณหภูมิห้อง และการไม่ผสมส่วนครีมชีสจนเข้ากันมากเกินไป

7. บราวนี่ชาเขียว

บราวนี่ชาเขียวเป็นการผสมผสานความเข้มของช็อกโกแลตกับความหอมของมัทฉะ เริ่มจากการทำเนื้อบราวนี่สูตรคลาสสิก แบ่งส่วนผสมออกมาผสมกับผงมัทฉะคุณภาพดี เทส่วนผสมบราวนี่ช็อกโกแลตลงพิมพ์ ตามด้วยส่วนผสมมัทฉะ ใช้ไม้จิ้มฟันสร้างลายหินอ่อน อบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที เคล็ดลับอยู่ที่การเลือกใช้มัทฉะเกรดดี และการไม่ผสมส่วนผสมจนเข้ากันมากเกินไป

8. บราวนี่เรดเวลเวท

บราวนี่เรดเวลเวทผสมผสานความเข้มของช็อกโกแลตกับสีสันสดใส เริ่มจากการทำเนื้อบราวนี่พื้นฐาน เพิ่มสีผสมอาหารสีแดงและโกโก้ผง ตีไข่กับน้ำตาลให้ขึ้นฟู ผสมกับส่วนผสมช็อกโกแลต ใส่แป้งเค้กและบัตเตอร์มิลค์ คนให้เข้ากัน เทลงพิมพ์ อบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที เคล็ดลับคือการใช้บัตเตอร์มิลค์เพื่อให้เนื้อนุ่มและสีสวย

9. บราวนี่เนยถั่ว

บราวนี่เนยถั่วเป็นการผสมผสานความมันของเนยถั่วกับความเข้มของช็อกโกแลต เริ่มจากการทำเนื้อบราวนี่สูตรคลาสสิก แยกทำส่วนเนยถั่วโดยผสมเนยถั่วกับน้ำตาลไอซิ่ง เทส่วนผสมบราวนี่ลงพิมพ์ หยอดเนยถั่วเป็นจุด ใช้ไม้จิ้มฟันวนให้เกิดลาย อบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที เคล็ดลับอยู่ที่การเลือกใช้เนยถั่วชนิดเนียน และการวนลายไม่ให้ละเอียดเกินไป

10. บราวนี่ช็อกโกแลตชิป

บราวนี่ช็อกโกแลตชิปเพิ่มความอร่อยด้วยช็อกโกแลตชิปที่แทรกอยู่ในเนื้อบราวนี่ เริ่มจากการทำเนื้อบราวนี่สูตรคลาสสิก ใส่ช็อกโกแลตชิปลงในส่วนผสมเป็นชั้นสุดท้าย คนเบาๆ เทลงพิมพ์ โรยหน้าด้วยช็อกโกแลตชิปเพิ่มเติม อบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที เคล็ดลับคือการเลือกใช้ช็อกโกแลตชิปคุณภาพดี และการไม่คนส่วนผสมมากเกินไปเพื่อให้ช็อกโกแลตชิปยังคงรูปทรง

สรุปบทความ

การทำตามสูตรบราวนี่ต่าง ๆ ให้อร่อยนั้นไม่ยากเกินความสามารถ เพียงเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดี และมีเตาอบที่ควบคุมอุณหภูมิได้แม่นยำ Tecnogas เรามีเตาอบที่มีระบบกระจายความร้อนสม่ำเสมอ ทำให้บราวนี่สุกทั่วถึง ไม่ไหม้ และได้เนื้อสัมผัสที่ดี