วิธีทำบัวลอยถือเป็นภูมิปัญญาการทำขนมไทยที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ ด้วยความนุ่มนวลของเนื้อแป้งกลมกลึง และน้ำกะทิหอมมัน ทำให้บัวลอยเป็นขนมที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ซึ่งบัวลอยสูตรต่าง ๆ ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้านจะมีอะไรกันบ้างเราไปดูวิธีทำบัวลอยไข่หวานกัน
10 สูตรวิธีทำบัวลอย หอมหวานมัน
บัวลอยเป็นขนมไทยที่มีความหลากหลายในการดัดแปลงวัตถุดิบ ทั้งตัวแป้งและน้ำกะทิ ซึ่งแต่ละสูตรก็มีเอกลักษณ์และความอร่อยแตกต่างกันไป เราจะพาไปดูวิธีทำบัวลอยไข่หวานและสูตรอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งสามารถทำได้ไม่ยาก เพียงมีวัตถุดิบและอุปกรณ์ครบครัน
1. บัวลอยไข่หวาน
บัวลอยไข่หวานเป็นสูตรดั้งเดิมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เริ่มจากการนวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำอุ่นให้นุ่ม แล้วปั้นเป็นก้อนกลมขนาดพอดีคำ ส่วนไส้ใช้ไข่แดงเค็มต้มสุกนำมาคลุกกับน้ำตาลทราย ห่อด้วยแป้งให้มิด ต้มในน้ำเดือดจนลอย ส่วนน้ำกะทิให้ต้มกะทิสดกับน้ำตาลทราย เกลือ และใบเตย คนให้เข้ากันไม่ให้กะทิแตก เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การนวดแป้งให้นุ่มพอดี ไม่แข็งหรือเหนียวเกินไป และการควบคุมอุณหภูมิน้ำกะทิไม่ให้เดือดจนแตก
2. บัวลอยเผือก
บัวลอยเผือกเป็นการนำเผือกมาผสมกับแป้งข้าวเหนียว สร้างความแตกต่างด้วยรสชาติและเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ เริ่มจากการนึ่งเผือกให้สุก บดละเอียด ผสมกับแป้งข้าวเหนียวและน้ำอุ่น นวดจนเข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลมขนาดพอดี ต้มในน้ำเดือดจนสุกลอย น้ำกะทิใช้สูตรเดียวกับบัวลอยไข่หวาน แต่เพิ่มความหอมด้วยใบเตยและเกลือเล็กน้อย เคล็ดลับอยู่ที่การเลือกเผือกที่มีเนื้อแน่น ไม่แฉะ และการนวดแป้งให้เข้ากันดี
3. บัวลอยงาดำ
บัวลอยงาดำโดดเด่นด้วยสีสันและกลิ่นหอมของงาดำ เริ่มจากการคั่วงาดำให้หอม บดละเอียด ผสมกับแป้งข้าวเหนียวและน้ำอุ่น นวดจนเข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลม ต้มในน้ำเดือดจนสุกลอย ส่วนน้ำกะทิเพิ่มความพิเศษด้วยการใส่งาดำบดละเอียดลงไปเล็กน้อย ต้มกับกะทิสด น้ำตาลทราย และเกลือ เคล็ดลับอยู่ที่การคั่วงาให้หอมก่อนบด และการควบคุมปริมาณงาในน้ำกะทิไม่ให้มากเกินไป
4. บัวลอยนมสด
บัวลอยนมสดเป็นการผสมผสานระหว่างขนมไทยกับรสชาตินมที่เข้ากันได้อย่างลงตัว ตัวแป้งทำจากแป้งข้าวเหนียวผสมนมสดแทนน้ำ นวดจนนุ่ม ปั้นเป็นก้อนกลม ต้มจนสุกลอย ส่วนน้ำซอสทำจากนมสดผสมกะทิ ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายและเกลือเล็กน้อย เคล็ดลับอยู่ที่การเลือกใช้นมสดคุณภาพดี และการต้มน้ำซอสด้วยไฟอ่อน คนตลอดเวลาไม่ให้นมแตกตัว
5. บัวลอยแป้งมันม่วง
บัวลอยแป้งมันม่วงมีสีสันสวยงามจากมันม่วงธรรมชาติ เริ่มจากการนึ่งมันม่วงให้สุก บดละเอียด ผสมกับแป้งข้าวเหนียวและน้ำอุ่น นวดให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลม ต้มจนสุกลอย น้ำกะทิใช้สูตรดั้งเดิม แต่เพิ่มความพิเศษด้วยการโรยงาขาวคั่วบดละเอียด เคล็ดลับอยู่ที่การเลือกมันม่วงที่มีสีสดและการนวดแป้งให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
6. บัวลอยฟักทอง
บัวลอยฟักทองให้ความหวานและสีสันจากธรรมชาติ เริ่มจากการนึ่งฟักทองให้สุก บดละเอียด ผสมกับแป้งข้าวเหนียวและน้ำอุ่น นวดให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลม ต้มจนสุกลอย น้ำกะทิเพิ่มความหอมด้วยใบเตยและวานิลา เคล็ดลับอยู่ที่การเลือกฟักทองที่สุกกำลังดี มีเนื้อแน่น และการนวดแป้งให้เนียนไม่เละ
7. บัวลอยใบเตย
บัวลอยใบเตยหอมสดชื่นด้วยกลิ่นธรรมชาติ เริ่มจากการปั่นใบเตยกับน้ำ กรองเอาแต่น้ำ นำมาผสมกับแป้งข้าวเหนียว นวดจนเข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลม ต้มจนสุกลอย น้ำกะทิใช้สูตรดั้งเดิมแต่เพิ่มใบเตยลงไปต้มด้วย เคล็ดลับอยู่ที่การเลือกใบเตยสดที่มีกลิ่นหอม และการกรองน้ำใบเตยให้ละเอียด
8. บัวลอยสาคู
บัวลอยสาคูมีเนื้อสัมผัสแปลกใหม่ เริ่มจากการแช่สาคูในน้ำอุ่นจนนิ่ม ผสมกับแป้งข้าวเหนียวและน้ำ นวดให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลม ต้มจนสุกลอย น้ำกะทิเพิ่มความหอมด้วยใบเตยและน้ำตาลปี๊บ เคล็ดลับอยู่ที่การแช่สาคูให้นิ่มพอดี และการนวดแป้งให้เข้ากันดีไม่แตกง่าย
9. บัวลอยน้ำขิง
บัวลอยน้ำขิงเป็นการดัดแปลงน้ำกะทิให้มีรสชาติแปลกใหม่ ตัวบัวลอยใช้สูตรดั้งเดิม ส่วนน้ำซอสทำจากการต้มขิงสดกับน้ำตาลทราย เติมกะทิและเกลือเล็กน้อย เคล็ดลับอยู่ที่การเลือกขิงอ่อนที่มีกลิ่นหอม และการควบคุมปริมาณขิงให้พอเหมาะ ไม่เผ็ดเกินไป
10. บัวลอยญวน
ไส้มีลักษณะเดียวกันขนมเทียน ตัวแป้งสามารถทำได้หลากหลายสีสัน จะปั้นใหญ่เล็ก ทำได้ตามต้องการ เริ่มจากทำไส้โดยนึ่งถั่วเขียวซีกให้สุก บดละเอียด ผสมน้ำตาลและมะพร้าวขูด ผัดจนแห้งหมาด ปั้นเป็นก้อนกลม ส่วนแป้งใช้แป้งข้าวเหนียวผสมน้ำร้อน นวดจนนุ่ม อาจแบ่งผสมสีธรรมชาติจากใบเตย อัญชัน หรือฟักทอง แผ่แป้งให้บาง ห่อไส้ ปั้นกลม ต้มในน้ำเดือดจนลอย เสิร์ฟกับน้ำเชื่อมใบเตยและมะพร้าวอ่อน
สรุปบทความ
วิธีทำบัวลอยแต่ละสูตรที่นำมาแบ่งปันนี้สามารถทำได้ง่ายที่บ้าน เพียงเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดีและอุปกรณ์ที่เหมาะสม สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องครัวคุณภาพดี ทั้งเตาไฟฟ้า เตาแก๊ส เตาอบ Tecnogas เรามีหลากหลายแบบให้เลือกซื้อ